หลังเก็บตัวเงียบเชียบมาพักใหญ่ ในที่สุดยักษ์ "ไมโคร ซอฟท์" ก็กลับมาอีกครั้ง ด้วยผลิตภัณฑ์เด่นที่งานถนัดที่สุดอย่างการพัฒนาระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ "วินโดวส์ 8" ซึ่งนอกจากจะอัพเดตเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ ๆ อีกเพียบแล้ว ยังวางแผนให้ระบบปฏิบัติการตัวเดียวกันนี้ใช้งานได้บนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทุกชนิด ไล่ตั้งแต่คอมพิวเตอร์พีซีไปจนถึงแท็บเลต ทั้งหวังพึ่งพานักพัฒนาซอฟต์แวร์อิสระให้ช่วยพัฒนา ด้วยการแจกวินโดวส์ 8 เวอร์ชั่นต้นแบบให้ได้สัมผัสแลกกับการแสดงความคิดความเห็นต่อซอฟต์แวร์ดังกล่าว
งานนี้เรียกได้ว่าไมโครซอฟท์ทุ่มสุดตัวเพื่อกลับมาผงาดในยุทธจักรอีกครั้ง
"วอลล์สตรีต เจอร์นัล" รายงานว่า เมื่อวันอังคารที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ประกาศเปิดตัวระบบปฏิบัติการเรือธงตัวใหม่ "วินโดวส์ 8" ในงานสัมมนาสำหรับนักพัฒนา BUILD ซึ่ง จัดขึ้นตลอดอาทิตย์ที่แคลิฟอร์เนีย โดย "สตีเฟ่น ซินอฟสกี้" ประธาน ส่วนธุรกิจวินโดวส์และวินโดวส์ ไลฟ์ "ไมโครซอฟท์" ได้พูดถึงวินโดวส์ตัวใหม่นี้ถึงขนาดว่า ถือการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์และสัมผัสในการใช้งานมากที่สุด นับตั้งแต่ไมโครซอฟท์เปิดตัววินโดวส์ 95 เมื่อ 16 ปีก่อนเลยทีเดียว
"วินโดวส์ 8 จะมีความยืดหยุ่นเพียงพอที่จะใช้งานบนคอมพิวเตอร์พีซีทั่วไป รวมไปถึงแท็บเลตด้วย ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 ได้รับการออกแบบให้ผู้ใช้ควบคุมสั่งการด้วยวิธีการกดบนหน้าจอสัมผัส หรือใช้นิ้วเลื่อนหน้าจอได้ ซึ่งเป็นลักษณะการใช้งานแบบเดียวกับสมาร์ทโฟนและแท็บเลต ทั้งออกแบบให้รองรับการใช้แอปพลิเคชั่นหลายตัวพร้อมกัน และอนุญาตให้ผู้ใช้เชื่อมไฟล์ข้อมูลจากอุปกรณ์ที่ใช้วินโดวส์ 8 แบบต่าง ๆ เข้าด้วยกันได้ เช่น ใช้กล้องถ่ายรูปบนแท็บเลตถ่ายภาพและโอนไฟล์มายังคอมพิวเตอร์"
นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังวางแผนกระตุ้นให้บรรดานักพัฒนาซอฟต์แวร์อิสระเข้ามาเป็นผู้พัฒนาแอปพลิเคชั่นสำหรับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 โดยให้บรรดานักพัฒนาช่วยประเมินด้วยว่า ระบบปฏิบัติการตัวนี้จะตีตลาดได้ดีแค่ไหน โดย "ไมโครซอฟท์" ประกาศว่า จะแจกแท็บเลตแบรนด์ซัมซุงที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 เวอร์ชั่นทดสอบ ให้นักพัฒนา 5,000 คน ที่เข้าร่วมงานนี้ให้ได้ทดลองใช้
"ไมโครซอฟท์" ยังได้จัดคอร์สฝึกอบรมให้นักพัฒนาที่สนใจศึกษาวิธีการสร้างโปรแกรมแอปพลิเคชั่นบนวินโดวส์ 8 และสำหรับใครที่ไม่ได้เข้าร่วมงานครั้งนี้ก็สามารถดาวน์โหลดวินโดวส์ 8 เวอร์ชั่นต้นแบบมาลองใช้ได้เอง จากเว็บไซต์ dev.windows.com ตั้งแต่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา
"สตีเฟ่น" กล่าวในงาน BUILD ว่า "ผลิตภัณฑ์ที่พวกคุณได้เห็นในตอนนี้เป็นเวอร์ชั่นทดสอบ ดังนั้นคุณจึงจะพบกับปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้าง และคงมีปัญหาอื่น ๆ ให้เห็นต่อจากนี้อีกแน่นอน ซึ่งระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 จะมีการปรับแต่งใหม่จากความช่วยเหลือของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ช่วยแสดงความเห็นกลับมา"
ด้าน "อันตวน เลอบลอนด์" รองประธานอาวุโสของไมโครซอฟท์ พูด ถึง "แอปสโตร์" ใหม่ด้วยว่า บริษัท เตรียมข้อมูลรายละเอียดไว้ให้นักพัฒนาทราบเสมอว่ากระบวนการอนุมัติให้ทำแอปพลิเคชั่นของไมโครซอฟท์ไปถึงขั้นไหน เนื่องจากนักพัฒนาซอฟต์แวร์มัก มีปัญหากับขั้นตอนการขอพัฒนา แอปพลิเคชั่นของแอปเปิลที่มักล่าช้าและไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลใด ๆ ได้เลย
สำหรับกำหนดวางตลาดของระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 และอุปกรณ์ที่จะใช้กับระบบปฏิบัติการตัวนี้ยังไม่ได้รับการเปิดเผย "สตีเฟ่น" กล่าวแต่เพียงว่าทีมงานได้รับการตั้งเป้าให้พัฒนาคุณภาพระบบปฏิบัติการดังกล่าวออกมาอย่างดีที่สุด แทนที่จะกำหนดว่า ต้องทำให้เสร็จภายในเวลาใด
อย่างไรก็ตาม หากคำนวณจากข้อมูลที่ "ไมโครซอฟท์" เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า มีกำหนดการออกระบบปฏิบัติการใหม่ทุก 3 ปี แสดงว่าระบบปฏิบัติการใหม่นี้มีโอกาสจะถึงมือผู้บริโภคในช่วงเดือน ก.ย. พ.ย.ปี 2555
"นักวิเคราะห์" มองว่า ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 เปรียบได้กับกลยุทธ์ตอบโต้ของไมโครซอฟท์สำหรับสู้กับ บริษัทไอทีรายใหญ่รายอื่น ๆ เนื่องจากปัจจุบันไมโครซอฟท์เสียส่วนแบ่งการตลาดไปมากให้ "ไอแพด" ของแอปเปิล ที่เป็นเหมือนตัวจุดกระแสมีเดียแท็บเลตในขณะนี้ รวมถึงแท็บเลตที่รองรับ "แอนดรอยด์" หลากหลายยี่ห้อ
อย่างไรก็ตาม ไมโครซอฟท์ต้องรออีกอย่างน้อย 1 ปีกว่าจะเริ่มดำเนินการ ซึ่งนั่นทำให้ทั้งแอปเปิลและกูเกิลมีเวลาเกินพอที่จะวางแผนตั้งรับไมโครซอฟท์เพื่อรักษาตำแหน่งของตนเอง
หันมาดูคุณสมบัติหลัก ๆ ของ วินโดวส์ 8 เท่าที่มีการเปิดเผยข้อมูลมีดังนี้ 1.แอปพลิเคชั่นบนวินโดวส์ 7 จะทำงานได้บนวินโดวส์ 8 2.คำเตือนด้านการอัพเดต ระบบรักษาความปลอดภัยจะปรากฏที่ด้านขวาล่างบนหน้าจอล็อกอิน 3.ฟังก์ชั่นใหม่ "รีเซต แอนด์ รีเฟรช พีซี" ช่วยให้ระบบล้าง และเรียกคืนการตั้งค่าเดิมได้ง่ายขึ้น 4.ระบบควบคุมแบบมัลติทัช รองรับการใช้อินเทอร์เน็ตเอ็กซ์พลอเรอร์ 10
5.เพิ่มฟังก์ชั่นการปรับแต่งหน้าจอเดสก์ทอป 6.ตั้งค่าให้ผู้ใช้เชื่อมต่อวินโดวส์ 8 จากอุปกรณ์หลาย ๆ แบบได้ 7.โน้ตบุ๊กที่ใช้หน่วยประมวลผลอะตอมเวอร์ชั่นแรกและมีแรมเพียง 1 จิกะไบต์ก็ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 ได้ 8.การล็อกอินทำด้วยระบบตรวจสอบด้วยภาพ 9.มาพร้อมแอนตี้ไวรัสของตนเอง และ 10.วินโดวส์ 8 สำหรับใช้บนแท็บเลต เป็นต้น
สำหรับวินโดวส์ 7 "ไมโครซอฟท์" เปิดเผยว่า จำหน่ายไปได้ทั้งหมด 450 ล้านไลเซนส์แล้ว ขณะที่ยอดขายไอแพดของแอปเปิลทั่วโลกอยู่ที่ 28 ล้านเครื่องโดยประมาณ
ก้าวทัน..เทคโนโลยี
วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554
วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2554
สุดเจ๋ง!! ไมโครซอฟท์โชว์ วินโดว์ 8 ใช้เวลาเปิดเครื่องไม่ถึง 10 วินาที
รายงานข่าวแจ้งว่า ทางไมโครซอฟท์ (Microsoft) ได้สาธิตการทำงานของวินโดว์ 8 ระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ ที่แสดงให้เห็นถึงความเร็วในการบู๊ตเครื่องขึ้นทำงานได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ เพื่อสร้างประสบการณ์ในการใช้งานกับผู้ใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ในการนี้ ไมโครซอฟท์ เปิดเผยว่า ระบบปฏิบัติการวินโดว์ 8 จะใช้การทำงานร่วมกันของรูทีนบูท, Shutdown และไฮเบอร์เนต กับเซสชั่นของแกนหลักในการทำงานของวินโดว์ 8 ทั้งนี้ ยังมีข้อได้เปรียบที่เกิดจากการทำงานของโพรเซสเซอร์แบบมัลติคอร์ ที่พบได้ในพีซี ผลลัพธ์ก็คือ เวลาเปิดเครื่องสั้นลงจนเหลือเพียงไม่กี่วินาที ทั้งนี้ฝายวิจัยของไมโครซอฟท์ ยังระบุว่า ผู้ใช้เดสก์ทอป 57% และโน้ตบุ๊ค 45% พอใจที่จะชัตดาวน์ และรีบู๊ตเครื่องมากกว่าใช้โหมดพักเครื่อง โดยให้เหตุผลว่า ผู้ใช้ต้องการประหยัดแบตเตอรี่ และต้องการให้เครื่องเริ่มต้นทำงานใหม่ เพื่อทำให้ระบบมีความพร้อมทำงานมากกว่า จึงเป็นเหตุผลให้ไมโครซอฟท์ เพิ่มขีดความสามารถในการเกิดเครื่องและชัตดาวน์ในระยะเวลาอันรวดเร็ว ทั้งนี้ เวลาในการบู๊ตเครื่องที่สั้นลงนี้ จะใช้ได้ดีทั้งกับสตอเรจที่เป็น HDD และ SSD
วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2554
สุดยอด!!! เน็ตบุ๊ก-แท็บเล็ต"สองจอ"
กองบรรณาธิการเว็บไซต์ arip ยังคงเกาะติดเทคโนโลยีเด็ดๆ ในงาน CEATEC อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากที่คุณผู้อ่านหลายท่านได้ตื่นตะลึงกับ Spacebook โน้ตบุ๊กสองจอของ gScreen ไปแล้ว ล่าสุดในงานนี้ Kohjinsha ได้นำต้นแบบเน็ตบุ๊กรุ่นใหม่มาโชว์ โดยจุดเด่นของมันก็คือมี"สองจอ"ด้วยเหมือนกัน อะไรจะไฮโซฯขนาดนั้น
บูธ Kohjinsha ในงาน CEATEC ได้สร้างความฮือฮาให้กับผู้ชมไม่น้อยด้วยการแสดงต้นแบบ"เน็ตบุ๊ก"ไฮโซฯที่มาพร้อม กับหน้าจอ LCD ขนาด 10.1 นิ้ว (ความละเอียด 1024 x 600 หรือ 1366 x 768) ถึง 2 จอด้วยกัน โดยสามารถเลื่อนทับกันได้สนิท ในกรณีที่ต้องการใช้งานแค่จอเดียว แต่เดี๋ยวก่อน มันไม่ใช่แค่เน็ตบุ๊กที่มีสองจอเท่านั้นนะค่ะ เพราะจากในรูปสังเกตได้ว่า บริเวณด้านล่างของจอกับคีย์บอร์ดจะมีกลไกที่ทำให้สามารถหมุนจอได้เพื่อใช้งานเป็น"แท็บเล็ต"ได้อีกด้วย
บูธ Kohjinsha ในงาน CEATEC ได้สร้างความฮือฮาให้กับผู้ชมไม่น้อยด้วยการแสดงต้นแบบ"เน็ตบุ๊ก"ไฮโซฯที่มาพร้อม กับหน้าจอ LCD ขนาด 10.1 นิ้ว (ความละเอียด 1024 x 600 หรือ 1366 x 768) ถึง 2 จอด้วยกัน โดยสามารถเลื่อนทับกันได้สนิท ในกรณีที่ต้องการใช้งานแค่จอเดียว แต่เดี๋ยวก่อน มันไม่ใช่แค่เน็ตบุ๊กที่มีสองจอเท่านั้นนะค่ะ เพราะจากในรูปสังเกตได้ว่า บริเวณด้านล่างของจอกับคีย์บอร์ดจะมีกลไกที่ทำให้สามารถหมุนจอได้เพื่อใช้งานเป็น"แท็บเล็ต"ได้อีกด้วย
สุดยอด!!! เน็ตบุ๊ก-แท็บเล็ต"สองจอ"
ต้นแบบเน็ตบุ๊กสองจอของ Kohjinsha เครื่องนี้จะใช้ซีพียูเป็น AMD Athlon Neo MV-40 1.6GHz ไดรเวอร์สำหรับการแสดงผลเป็น DirectX 10 ฮาร์ดดิสก์ SATA 2.5 นิ้ว รองรับหน่วยความจำแบบ DDR2 ได้สูงสุด 4GB เชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi 802.11 b/g/n และบลูทูธ มาพร้อมกับฟังก์ชันทีวีจูนเนอร์ และทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Windows 7 Home Premium โดยตัวเครื่องต้นแบบมีน้ำหนักรวมทั้งหมดไม่ถึง 4 ปอนด์ (1.8 กิโลกรัม) แต่อาจจะเทอะทะเล็กน้อย ทั้งนี้ส่วนที่หนาที่สุดของเครื่องจะอยู่ที่ 1.7 นิ้ว (สองจอซ้อนกัน+ตัวเครื่อง) และบางสุด 0.75 นิ้ว นอกจากเรื่องของการพกพาที่ดูไม่น่าจะสะดวกมากนักแล้ว มันยังมีประเด็นเรื่องของแบตเตอรี่ที่ใช้ เพราะสองจอน่าจะใช้พลังงานไม่น้อย กำหนดการวางตลาดในญี่ปุ่นก่อนสิ้นปีนี้ สนนราคาประมาณ 800 เหรียญฯ (ประมาณ 28,800 บาท) เอาเป็นว่า มันจะดูสวยงามน่าใช้แค่ไหน คุณผู้อ่านก็ลองชมจากคลิปที่นำมาฝากข้างล่างนี้ก็แล้วกันค่ะ
วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2554
ที่ชาร์จสารพัด Gadgets ของคุณ
ไอ้เจ้าเครื่องที่ทุกคนเห็นในภาพนั้น มันไม่ใช่สเก็ตบอร์ดหรือพรหมเช็ดเท้านะค่ะ แต่มันเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคอย่างนึง ที่ได้รับการออกแบบโดย Rob Cameron ซึ่งจากการออกแบบมาอย่างเลิศหรูอลังการ มันสามารถที่จะเป็นที่ชาร์จ Gadgets ของเราได้ตั้งหลายอย่างแนะ ไม่ว่าจะเป็น iPhone, BlackBerry, PSP, Apple Dock, ส่วนการทำงานก็คือจะมีปลอกที่ติด PowerMat สวมทับที่ Gadgets อีกทีแล้วแปะเครื่องของเราลงไปบนฐาน PowerMat นอกจากนั้นมันยังสามารถเชื่อมต่อด้วยสายชาร์จหัวต่อ PowerMat ได้อีกตั้งหลายรูปแบบ จากการออกแบบ เค้าทำออกมาให้มีความบาง และเบา สามารถเก็บพับได้ สามารถพกพาไปไหนต่อได้เหมือนพกโทรศัพท์มือถือได้เลยทีเดียว โอ้โหถ้ามีออกมาขายจริง ๆ จะเป็นไปได้มั้ยเนี่ย แต่ต้องยอมรับนะว่าช่างคิดด้ายยยยยยคุณ Rob Cameron
ว้าว!!! แฟลชไดรฟ์ 32GB "เล็กจิ๋ว-กันน้ำ"
Pico Drive 32GB แฟลชไดรฟ์ยูเอสบีขนาดเล็กที่สุดในโลกที่มีความจุสูงขนาดนี้ โดยมีความยาวแค่ 31.3 มม. กว้าง 12.4 มม. และหนา 3.4 มม. เท่านั้น ซึ่งเมื่อเสียบเข้ากับพอร์ตยูเอสบี ส่วนที่ยื่นออกมาแค่ 1.5 ซม. เท่านั้น ตัวถังเคลือบด้วยเงิน (กันไฟฟ้าสถิตย์ หรือกระแสไฟฟ้าเล็กๆ ที่อาจะส่งผลอันตรายกับข้อมูลที่บันทึกอยู่ภายใน) และเช่นเคยที่มันยังคงสามารถกันน้ำได้
คลิปข้างล่างนี้เป็นการพิสูจน์คุณสมบัติกันน้ำของแฟลชไดรฟ์รุ่น 8GB สนนราคาของ Pico Drive 32GB อยู่ที่ 139.99 เหรียญฯหรือประมาณ 5,000 บาท
สำรวจร้านดังมาบุญครอง จับกระแสก่อนเปิดตัว iPhone 5 ราคา iPhone 4 รูดลงทุกวัน
นับถอยหลัง อีกไม่นาน "Apple" จะเปิดตัว iPhone 4 ความจุ 8GB พร้อม กับ iPhone 5 ชั่วโมงนี้ สาวก "Apple" ต่างตั้งตารอ เตรียมทุบกระปุก
กระแสข่าว iPhone 5 ถูกจับตามองกันแบบวันต่อวัน บางกระแสก็ลือว่าจะมีการวางจำหน่ายในวันที่ 7 ตุลาคมนี้ บางกระแสก็บอกว่าจะวางจำหน่าย 14 ตุลาคม ซึ่งกระแสข่าวทั้งสองก็ยังไม่ได้มีการยืนยันออกมาอย่างเป็นทางการ
ขณะที่ Apple ก็ยังไม่ระบุแน่ชัดว่าวันไหน แต่ล่าสุดกลับมีกระแสข่าวใหม่ออกมาเพิ่มเติมว่า ทาง Apple จะทำการเปิดให้สั่งจองหรือ Pre-Order ในช่วงปลายเดือนกันยายนที่จะถึงนี้
สำหรับ iPhone 4 ความจุ 8GB นั้น ซึ่งผลิตออกมาเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายระดับล่างและนำมาขายในราคาที่ไม่สูงมาก นัก ราคาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 12,000-14,000 บาท เหมาะสำหรับคนที่มีกำลังซื้อน้อย แต่อยากใช้ iPhone ซึ่งโฉมใหม่ของ iPhone 4 จะมาพร้อมกับความจุ 8GB และจะเปิดตัวในเร็วๆนี้
มติชนออนไลน์ สำรวจ ตลาดมือถือยอดนิยม ศูนย์การค้ามาบุญครอง ก่อน iPhone 5 จะเปิดตัวในเร็ววัน
นายอำนวย แกะสุวรรณ พนักงานขายร้าน "A.O.B mobile" เผยว่า ราคา iPhone 4 ปรับลงเกือบทุกวัน ลดลงประมาณ 100-200 บาทต่อวัน ตั้งแต่ที่มีข่าวออกมา เกี่ยวกับ iPhone ตัวใหม่ล่าสุด ซึ่งตอนนี้ทางร้านไม่ได้รับสินค้าเพิ่มแล้ว เพียงแต่ขายของในสต๊อกให้หมดก่อน เกรงว่า ถ้ารับของมาขายในตอนนี้ อาจจะทำให้ขาดทุนได้ เพราะราคา iPhone 4 ปรับลดลงทุกวันและคาดว่า ราคาอาจจะลดลงไปถึง 3,000-5,000 บาท ก็เป็นไปได้
พนักงานร้าน "A.O.B mobile" ให้ข้อมูลอีกว่า ราคาขาย iPhone 4 (16GB) ในตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 19,900 บาท(ราคาเครื่องหิ้ว) ซึ่งราคาเดิมอยู่ที่ 23,000 บาท และคาดว่า หาก iPhone 5 เข้ามา ราคาอาจจะลดเหลือเพียงแค่ 16,000 บาทเท่านั้น
อย่างไรก็ตามยอดขาย iPhone 4 ของร้านเราในตอนนี้จำนวนการขายยังคงที่ เพียงแต่ต้องปรับราคาลดลงเพื่อดึงดูดลูกค้า เพราะตอนนี้ลูกค้าส่วนใหญ่จะรอซื้อ iPhone 5 กันทั้งนั้น
ขณะที่ นายส่งศักดิ์ จรรยาวุฒิกุล เจ้าของร้านจำหน่ายโทรศัพท์ "M2D-online" กล่าวว่า จำนวนยอดขาย iPhone 4 ในตอนนี้เริ่มลดลงเรื่อยๆ ส่วนในเรื่องราคาขายนั้น ทางร้านของเราขาย iPhone 4 ในราคา 20,900 (16GB) เป็นราคาเครื่องศูนย์รับประกันให้หนึ่งปี ส่วนในเรื่องการปรับราคาในแต่ละวันนั้น จะดูจากจำนวนผู้ซื้อ หากผู้ซื้อมีจำนวนมากทางเราก็จะมีการปรับราคาขึ้นประมาณ 100-200 บาท หากผู้ซื้อมีจำนวนน้อยลงทางเราก็จะปรับราคาลงอีกพอสมควร ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับจำนวนสินค้าด้วยว่า ขาดสต๊อกหรือเปล่า
"ลูกค้าของร้านเราในตอนนี้จะมีอยู่ 2 ประเภท คือ ลูกค้าที่รอให้ iPhone 5 ออกมาก่อน เพื่อที่จะรอซื้อ iPhone 4 ในราคาที่ถูก และอีกประเภทคือ รอซื้อ iPhone ตัวใหม่ล่าสุดทีเดียวเลย" เจ้าของร้านโทรศัพท์ M2D-online กล่าว
สำหรับข่าวลือใหม่ล่าสุดทีมีการเผยแพร่ออกมาก็คือ เคสด้านหลังของ iPhone 5 จะใช้อะลูมิเนียมแทนการใช้กระจกแก้วที่มีปัญหาว่ามันแตกร้าวได้ ซึ่งจะว่าไป การใช้อะลูมิเนียมเป็นทางที่ Apple ชอบอยู่แล้ว และนอกจากจะเปลี่ยนวัสดุที่ใช้ทำเคสของ iPhone 5 แล้ว เสาสัญญาณยังได้รับการออกแบบใหม่ โดยจะไม่มีการโผล่ส่วนใดๆ ของเสาสัญญาณออกมาเหมือนดีไซน์ของ iPhone 4 แต่จะซ่อนอยู่ด้านหลังโลโก้ของ Apple ซึ่งจะคล้ายกับวิธีซ่อนเสาสัญญาณ Wi-Fi ในตัวเคสของ iPad
อย่างไรก็ตามหลักฐานที่ทำให้แนวคิดนี้มีความน่าเชื่อถือก็คือ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว Apple ได้จดสิทธิบัตรสำหรับวิธีซ่อนเสาอากาศไว้ในโลโก Apple ของ iPhone ส่วนเรื่องเคส iPhone 5 จะใช้วัสดุเป็นอะลูมิเนียม ยังไม่มีแหล่งข่าวออกมายืนยันถึงความเป็นไปได้ แต่ก็ถือว่า เป็นข่าวลือข่าวแรกที่ฟังดูแล้วมีความเป็นไปได้สูงมากทีเดียว ยังไงก็ต้องติดตาม รอดูความชัดเจนกันต่อไป
ก่อน iPhone 5 ตัวจริงจะมาถึง เรามาดูรูปโฉมของ iPhone 5 ตัวปลอม ฆ่าเวลากันไปพรางๆก่อนแล้วกันนะคะ
แค่ราคาก็กินขาดแล้ว เริ่มต้นเพียง 2,000 บาท ถูกเหลือเชื่อจริงๆ สำหรับ iPhone 5 (ตัวก๊อปจีน) ซึ่ง ดีไซน์โดยโรงงานจีน คุณสมบัติเพียบ อาทิเช่น WIFI,ดูTVฟรี,Bluetooth,กล้อง ซึ่งมีทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง และอื่นๆอีกเพียบ และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ ตัวเครื่องสามารถใส่ได้ 2 ซิม โอ้โห้!! เห็นอย่างนี้แล้ว บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Apple จะสู้ได้อย่างไรกัน ฮ่า...ฮ่า...
"ใครที่กำลังมองหา มือถือ ก็ลองซื้อไปเซอร์ไพรส์เพื่อนๆกันดูได้นะ ว่าเรามีโอกาสได้ใช้ iPhone 5 ก่อนใครอีกนะ เออ.."
ที่มา : http://variety.teenee.com/foodforbrain/39024.html
วันพุธที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2554
อัพเกรด Windows 7 ด้วยไดรฟ์ยูเอสบี
ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ออกซอฟต์แวร์ฟรีที่ช่วยให้ผู้ใช้เน็ตบุ๊กที่ต้องการอัพเกรดไปใช้ระบบปฎิบัติการ Windows 7 ได้สะดวกยิ่งขึ้น เนื่องจากเน็ตบุ๊กโดยทั่วไปจะมาพร้อมกับ Windows XP และไม่มีไดรฟ์ DVD เครื่องมือดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ใช้กลุ่มนี้สามารถสร้างยูเอสบีแฟลชไดรฟ์ หรือ DVD ที่สามารถใช้ในการบู๊ตเครื่อง และติดตั้ง Windows 7 ได้
สำหรับเครื่องมือดังกล่าวจะเป็นประโยชน์กับผู้ใช้ที่ดาวน์โหลดก็อปปี้ Windows 7 จากเว็บไซต์ Microsoft Store โดยเมื่อติดตั้งซอฟต์แวร์ตัวนี้เข้าไปในเน็ตบุ๊ก แล้วเปิดมันขึ้นทำงาน มันจะถามผู้ใช้ถึงตำแหน่งที่เก็บไฟล์ ISO ของ Windows 7 ที่ดาวน์โหลดมา เมื่อเลือกไฟล์เสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็เลือกว่าจะใช้ยูเอสบีแฟลชไดรฟ์ หรือ DVD หลังจากเลือกเสร็จตามขั้นตอนแล้ว คุณจะสามารถใช้ USB drive หรือ DVD ที่สร้างขึ้นมาไปใช้ในการติดตั้ง Windows 7 ได้ทันที
อย่างไรก็ดี หลังจากเตรียมไดรฟ์ยูเอสบีที่จะใช้บู๊ต และติดตั้ง Windows 7 แล้ว ขั้นตอนก่อนติดตั้งก็คือ คุณจะต้องเข้าไปเปลี่ยนลำดับการบู๊ตใน BIOS เพื่อให้เน็ตบุ๊กของคุณบู๊ตจากไดรฟ์ยูเอสบีแทนที่จะเป็นจากฮาร์ดดิสก์ สำหรับระบบขั้นพื้นฐานที่สามารถติดตั้งเครื่องมือตัวนี้ได้มีดังนี้
ระบบปฏิบัติการทีใช้เป็น Windows XP SP2, Windows Vista หรือ Windows 7 (32-bit หรือ 64-bit)
โพรเซสเซอร์ Pentium 233MHz ขึ้นไป (แนะนำให้ใช้ที 300MHz)
พื้นที่ว่างบนฮาร์ดดิสก์ 50MB
ไดรฟ์ DVD-R หรือยูเอสบีแฟลชไดรฟ์ความจุ 4GB ขึ้นไป
สนใจดาวน์โหลด Windows 7 USB/DVD Download Tool
ที่มา : http://hitech.sanook.com/technology/news_13516.php
สำหรับเครื่องมือดังกล่าวจะเป็นประโยชน์กับผู้ใช้ที่ดาวน์โหลดก็อปปี้ Windows 7 จากเว็บไซต์ Microsoft Store โดยเมื่อติดตั้งซอฟต์แวร์ตัวนี้เข้าไปในเน็ตบุ๊ก แล้วเปิดมันขึ้นทำงาน มันจะถามผู้ใช้ถึงตำแหน่งที่เก็บไฟล์ ISO ของ Windows 7 ที่ดาวน์โหลดมา เมื่อเลือกไฟล์เสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็เลือกว่าจะใช้ยูเอสบีแฟลชไดรฟ์ หรือ DVD หลังจากเลือกเสร็จตามขั้นตอนแล้ว คุณจะสามารถใช้ USB drive หรือ DVD ที่สร้างขึ้นมาไปใช้ในการติดตั้ง Windows 7 ได้ทันที
อย่างไรก็ดี หลังจากเตรียมไดรฟ์ยูเอสบีที่จะใช้บู๊ต และติดตั้ง Windows 7 แล้ว ขั้นตอนก่อนติดตั้งก็คือ คุณจะต้องเข้าไปเปลี่ยนลำดับการบู๊ตใน BIOS เพื่อให้เน็ตบุ๊กของคุณบู๊ตจากไดรฟ์ยูเอสบีแทนที่จะเป็นจากฮาร์ดดิสก์ สำหรับระบบขั้นพื้นฐานที่สามารถติดตั้งเครื่องมือตัวนี้ได้มีดังนี้
ที่มา : http://hitech.sanook.com/technology/news_13516.php
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)