วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

All in 1 คีย์บอร์ด..รวมทุกอย่างที่จำเป็นไว้ในนี้หมดแล้ว


ขอนำเสนอคีย์บอร์ดแนวคิดใหม่ ที่ภายนอกดูหรูหราด้วยวัสดุที่เป็นมันวาวเพราะทำด้วยกระจก ไม่มีปุ่มใดๆโผล่ขึ้นมารบกวนจิตใจ เพราะใช้ระบบทัชสกรีน ขนาดก็ไม่ใหญ่ไปกว่าขนาดของคีย์บอร์ดในปัจจุบัน แต่ที่พิเศษคือมันรวบรวมเอาทุกอย่างมาไว้ในนี้ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่น CD, DVD พอร์ตสำหรับ USB และ SD Slot สามารถฟังวิทยุและทำเป็นลำโพงได้ พร้อมลูกเล่นเก๋ๆคือมันสามารถเปลี่ยนสีได้ทุกสีตลอดเวลาที่เราต้องการอีก ด้วย…ว่าแต่หลังใช้คีย์บอร์ดอันนี้เสร็จรอยนิ้วมือคงเต็มเกลื่อนเลยทีเดียว ^ ^”


ขอบคุณ... veedvil

วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

อยู่ที่ไหนก็ช็อปปิ้งได้กับ “ร้านขายของเสมือนจริง”

ด้วยภาวะที่เร่งรีบในปัจจุบัน เดี๋ยวนี้คนเกาหลีใต้สามารถช็อปปิ้งกันได้แม้ขณะรอรถไฟฟ้าใต้ดินเพื่อเดินทางกลับบ้าน ด้วยผลงานร้านค้าแบบเสมือนจริงจาก Tesco Homeplus

จากภาพจะเห็นเป็นรูปสินค้าที่ถูกติดตั้งไว้ที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน วิธีการใช้งานก็ง่ายแสนง่ายมีขั้นตอนดังนี้
1. ลูกค้าต้องการช็อปปิ้งสินค้าตัวไหน ก็เพียงแค่ใช้โทรศัพท์มือถือสแกน QR Code ที่ติดอยู่กับรูปสินค้าเท่านั้น
2. สินค้าก็จะถูกจัดเก็บในระบบตะกร้าสินค้าอัตโนมัติ
3. หลังจากที่คุณชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ เมื่อคุณเดินทางกลับถึงบ้าน สินค้าที่คุณช็อปปิ้งก็จะถูกจัดส่งไปที่หน้าบ้านเลย
โอ้โหสุดยอดจริงๆ ไม่ต้องเข็นรถเข็นหรือหิ้วตะกร้ากันให้เมื่อยอีกต่อไป แต่ระบบนี้คงไม่ถูกใจสำหรับคนที่ชอบเดินเลือกสินค้าแบบ จับๆ ดมๆ ชิมๆ

ลองดูภาพและวีดีโอของเขาดูซิ








ขอบคุณ gotcyder

และ 

วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ใครสนใจอยากดื่มเบียร์ด้วยไอโฟน ฟังทางนี้!

ปัจจุบันนี้ คุณสามารถใช้ไอโฟนทำอะไรก็ได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นโทรเข้า โทรออก จะส่งข้อความ ถ่ายรูป ท่องโลกไซเบอร์ และอีกสารพัด 
แต่อีกไม่นานสาวกไอโฟนทั้งหลายก็จะสามารถเปิดขวดเบียร์ได้ด้วยเจ้าสมาร์ทโฟนเครื่องนี้แล้ว เมื่อผู้ประกอบการชาวออสเตรเลียสองคนได้คิดค้นปลอกใส่โทรศัพท์พลาสติกแบบแข็งที่สามารถใช้เปิดขวดเบียร์ได้

คริส ปีเตอร์ ผู้คิดค้นอุปกรณ์นี้ร่วมกับ ร็อบ วอร์ด บอกว่าด้วยความที่ชาวออสเตรเลียเป็นนักดื่ม (และอีกหลายๆ ประเทศทั่วโลก) และการไปดื่มในโอกาสพิเศษที่บ้านเพื่อน บางครั้งคุณอาจหาที่เปิดขวดไม่เจอ พวกเขาเลยคิดว่าในเมื่อทุกคนมีโทรศัพท์มือถืออยู่กับตัว ทำไมจึงไม่ทำให้โทรศัพท์นั้นใช้เปิดขวดได้ด้วยเสียเลย


ทั้งปีเตอร์และวอร์ดจึงใช้หลักการง่ายๆ 3 ข้อ ในการประดิษฐ์เคสใส่ไอโฟนที่ใช้เปิดขวดยี่ห้อ Opena คือ ตัวปลอกหรือเคสต้องบาง, ตรงส่วนที่ใช้เปิดขวดต้องไม่เผลอไปขูดตัวเครื่องโทรศัพท์ และข้อสุดท้ายคือส่วนที่เปิดขวดต้องไม่มีแรงกดกันไปทับตัวเครื่องในขณะที่ใช้เปิดขวด

การทดลองใช้รวมไปถึงกรณีที่แย่ที่สุดที่ฟองเบียอาจจะพุ่งหลังจากเปิดแล้ว
นอกเหนือจากการขัดข้องทางเทคนิคบางประการที่เกิดกับตัวต้นแบบทดลองแล้ว การพัฒนาเจ้าอุปกรณ์ที่ว่าก็เป็นไปได้ด้วยดี อีกทั้งการเริ่มหยั่งเชิงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายผ่านเว็บไซต์ต่างๆ ก็ดูท่าจะไปได้สวย จนทำให้ต้องเปิดตัววางขายผลิตภัณฑ์ได้เพียงไม่กี่สัปดาห์
ทั้งคู่เล่าว่าถึงแม้จะมีคนฝากข้อความไว้บนหน้าเฟซบุ๊คของเขาทั้งสองว่าที่เปิดขวดเบียด้วยปลอกไอโฟนจะไปรอดเหรอ แต่ส่วนมากเสียงตอบรับก็เป็นไปในทางบวก บางคนชอบมากถึงกับบอกว่า "ผลสุดท้าย เราก็สามารถรวมความรักที่มีต่อการดื่มและเทคโนโลยีเข้าด้วยกันจนได้"




"เฟซบุ๊ค" จับมือ"สไกป์" เปิดตัวบริการใหม่ "วีดิโอ คอลลิ่ง" พร้อมใช้งานแล้ว


"เฟซบุ๊ค" จับมือ"สไกป์" เปิดตัวบริการใหม่ "วีดิโอ คอลลิ่ง" พร้อมใช้งานแล้ว
เฟซบุ๊คเดินหน้าไปอีกขั้น หลังจากที่คู่แข่งอย่างกูเกิลได้เปิดตัวเว็บไซต์สังคมออนไลน์ "กูเกิล พลัส" ไปเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยล่าสุดก็ได้มีเปิดใช้งานในบริการ "วีดิโอ คอลลิ่ง" หรือการพูดคุยกันแบบเห็นหน้าแล้ว
นับได้ว่าเป็นการพัฒนาที่ต่อเนื่องหลังจากที่ก่อนหน้านี้เฟซบุ๊ค ได้เปิดให้มีการใช้งานระบบแช็ต (Chat) ขึ้นมา  จากนั้น 1  ปีต่อมาจึงได้มีการพัฒนาต่อยอด โดยครั้งนี้เฟซบุ๊ค ได้ทำการพัฒนาโดยร่วมมือกับ "สไกป์" (Skype)  นำฟังก์ชันการคุยแบบวิดีโอ คอลลิ่ง เข้ามาเพิ่มสีสันในการพูดคุยอีกครั้ง
โดยฟังก์ชันวีดิโอ คอลลิ่งนี้ถูกพัฒนาให้รองรับถึง 70 ภาษา และยังสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดายเพียงคลิ๊กเลือกที่ปุ่มไอคอนรูปวีดีโอที่เมนู บาร์ ของชื่อเพื่อนแต่ละคน ก็สามารถเริ่มทำการสนทนาผ่านระบบวีดิโอ คอลลิ่ง ได้แล้ว แต่หากใครเริ่มใช้งานเป็นครั้งแรกจะมีคำแนะนำให้ทำการดาวน์โหลดและติดตั้งพลั๊กอิน ก่อนใช้อีกด้วยอย่างไรก็ดี
ระบบการสนทนาแบบใหม่นี้ ผู้ใช้ยังคงทำการพูดคุยได้เพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นระบบเดียวกับบริการกูเกิล พลัส
นอกจากนั้นเฟซบุ๊คยังเพิ่มทางเลือกในการพูดคุยแบบกลุ่ม โดยขณะที่ผู้ใช้กำลังพูดคุยกับเพื่อนคนหนึ่ง เขาสามารถกดปุ่มไอคอนเพื่อเพิ่มเพื่อนเข้ามาในการสนทนาได้อีกด้วย

มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ค กล่าวระหว่างการแถลงข่าวเปิดบริการใหม่ว่า บริษัทกำลังดำเนินการเปิดตัวบริการใหม่ๆของปี 2011 เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ ภายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ซัคเคอร์เบิร์กเปิดเผยว่า ในขณะนี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊คทั่วโลกมีจำนวนทั้งสิ้น 750 ล้านรายแล้ว ทั้งนี้ เฟซบุ๊คจะให้ความสนใจต่อการแบ่งปันสิ่งต่างๆของผู้ใช้ในเครือข่ายมากขึ้น ทั้งการอัพโหลดรูปภาพ อัพเดทสถานะ และลิงค์ต่างๆ ซึ่งมีอัตราเพิ่มขึ้นมากกว่าฐานข้อมูลผู้ใช้รายเดือน หรือราว 4 พันล้านครั้งต่อวัน


ที่มา : 



10 เหตุผลดีๆที่คุณควรซื้อ iPad 2 ไว้ใช้งานซักเครื่อง!





รอคอยกันไม่นานอย่างที่คิดเหมือนเมื่อครั้งที่ iPad รุ่นแรกเปิดตัวในบ้านเรา ในที่สุดก็ได้เวลาที่ชาวไทยทั้งหลายจะได้สัมผัสกับiPad 2 ภาคต่อสุดอลังการของว่า ที่แทบเลตแห่งปีกันเสียที โดยในวันศุกร์นี้ (6 พฤษภาคม, 11.00 น. เป็นต้นไป) ก็จะเป็นวันเริ่มวางจำหน่ายไอแพด 2 อย่างเป็นทางการผ่าน ทางร้าน Power Buy รวมถึง iStudio และ Apple Shop ใน Power Mall, BananaIT, IT City และตัวแทนจำหน่ายอื่นๆสิริรวมแล้วเกือบ 40 สาขาเลยทีเดียว

ซึ่งงานนี้ก็มีเพื่อนๆหลายคนเข้ามาสอบถามกับทาง TechXcite ของเราว่าจะซื้อไอแพด 2 มาใช้งานกันดีไหมเพราะบางส่วนนั้นก็เป็นแฟน Apple และมี iPad รุ่น แรกใช้งานกันอยู่แล้วเลยไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องซื้อใหม่ ขณะที่ในส่วนของผู้ใช้งานแทบเลตหน้าใหม่ๆทั้งหลายก็ยังเกิดอาการรักพี่ เสียดายน้องว่าจะเลือกซื้ออะไรระหว่าง iPad 2 กับมหึมากองทัพสินค้าแทบเลตแอนดรอยด์ที่ทยอยกันออกมาถี่ยิ่งกว่าดอกเห็ดเสียอีกในเวลานี้

ว่าแล้วทีมงาน TechXcite ก็ เลยอยากจะขอตอบคำถามของทุกท่านด้วยการรวบรวมเหตุผลดีๆซัก 10 ข้อที่คุณๆทั้งหลายควรจะรีบลางานหรืออะไรก็ตามแต่ออกไป จับจองเป็นเจ้าของ iPad 2 กันให้ว่องไวในวันศุกร์นี้ (อันที่จริงมีหลายร้อยเหตุผลแต่กลัวอีกแพลตฟอร์มหนึ่งจะงอนตูดบิดไปเสียก่อน XD) ลองมาติดตามกันดู ว่า iPad 2 นั้นมันมีดีและแตกต่างจากแทบเลตของคู่แข่งเจ้าอื่นอย่างไรและทำไมใครๆเขาถึงอยากจะได้ไว้เชยชมกันซักเครื่อง!
1. iPad 2 บางกว่าเดิม, เบากว่า iPad รุ่นแรกคนละชั้น
iPad 2




แม้ว่า iPad รุ่นแรกเองจะเคยเขย่าวงการแทบเลตมาแล้วครั้งหนึ่งด้วยความบางเฉียบชนิดสะท้านสายตาผู้ใช้งาน ทว่ากับการหวนคืนสู่สังเวียนอีกครั้งของไอแพด 2
กับ ขนาดที่บางลงกว่าเดิมถึง 33 เปอร์เซนต์เหลือเพียง 8.8 มิลลิเมตรขณะที่น้ำหนักก็เบาลงเหลือแค่เพียง 600 กรัมนิดๆก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่า iPad 2 นั้นจะได้ชื่อว่าเป็นแทบเลตที่มีขนาดบางเบาที่สุดในโลกเวลานี้ไปแล้ว
ทั้งที่จะว่าไปแล้วตัวเครื่องไอแพด 2 เอง ก็ยังสามารถรักษาขนาดหน้าจอ 9.7 นิ้วของตัวเองเอาไว้ได้เหมือนเดิมโดยไม่จำเป็นที่จะต้องไปตามกระแสกับการทำ หลายรุ่นหน้าจออย่าง 6,7,8,9 หรือ 10 นิ้วให้ผู้ใช้งานทั้งหลายต้องมึนตึ้บเหมือนบางค่ายเสียด้วยซ้ำ
iPad 2

ซึ่งด้วยความบางเฉียบดังที่ได้กล่าวมานั้นจะส่งผลลัพธ์กับประสบการณ์การใช้งาน iPad 2 ของ ลูกค้าทั่วไปโดยตรงอย่างเช่นการถือแทบเลตอ่านหนังสือ e-book หรือการเล่นเกมส์แบบใช้แทบเลตเป็นคอนโทรลเลอร์ (เช่นเกมส์แข่งรถ) ก็สามารถทำได้ยาวนานขึ้นโดยผู้ใช้ไอแพด 2 ไม่รู้สึกเมื่อยล้าไปเสียก่อน

2. เพิ่มความสนุกให้ชีวิตกับกล้องหน้า-หลังของ iPad 2
iPad รุ่น แรกนั้นแม้จะเข้าขั้นอุปกรณ์ชั้นเทพเพียงใดแต่ก็ยังมีข้อให้ต้องตำหนิอยู่ เล็กน้อยกับการที่ตัวเครื่องแทบเลตไม่ได้ติดตั้งกล้องมาให้ด้วยทั้งที่จะว่า ไปแล้วก็เป็นฟังก์ชั่นพื้นฐานสุดๆชนิดที่ว่าแทบเลตจีนไก่กาแค่ไหนก็ยังมีให้ ด้วยทุกเครื่อง และหลังจากที่สาวก Apple ทั้งหลายเรียกร้องกันอยู่นานในที่สุด Steve Jobs และพลพรรคก็ได้จัดการนำคุณสมบัติกล้องหน้า-กล้องหลังมาใส่ไว้ให้กับ iPad 2 กันสมใจอยากเรียบร้อยแล้ว
ซึ่ง แม้ว่าจะไม่ได้เป็นกล้องความละเอียดสูงเหมือนอย่างแทบเลตแอนดรอยด์ในเวลานี้ ก็ตาม (มาตรฐานทั่วไปที่กล้องหน้า 2MP กล้องหลัง 5MP) แต่ตัวไอแพด 2 นั้น ก็จะชดเชยให้กับทุกท่านด้วยความสามารถในการบันทึกวิดีโอ HD 720p, วิดีโอคอลผ่าน FaceTime และโปรแกรมเอฟเฟกต์ภาพฮาๆในเครื่องอย่าง Photo Booth (และใน App Store อีกล้านแปด) ด้วยซึ่งจะทำให้คุณไม่รู้สึกเบื่อเลยสักนิดกับการใช้งานกล้องบนไอแพด 2



3. iPad 2 ใช้งาน FaceTime ได้เสียที
FaceTime for iPad 2

ในเมื่อมีกล้องหน้า-หลังติดตั้งมาให้ด้วย ไอ้ครั้นจะไม่ใส่ฟีเจอร์นี้มาให้ในไอแพด 2 ก็คงจะเป็นเรื่องที่แปลกอยู่พอสมควรทีเดียวสำหรับแอพพลิเคชัน FaceTime หรือโปรแกรมวิดีโอคอลผ่าน Wi-Fi อันเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Apple ซึ่งเริ่มใช้งานกันไปตั้งแต่ iPhone 4 เป็นต้นมา

ซึ่งแน่นอนว่าการใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวบนสมาร์ตโฟนจอเล็กๆนั้นยังไงเสียก็ไม่น่าที่จะสู้การใช้งาน FaceTimeชนิดเต็มรูปแบบบน iPad 2 ที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ยักษ์และพื้นที่สำหรับการใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมไปได้แน่


ที นี้แหละไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนคุณก็จะได้สนุกไปกับการแชตกันแบบเห็นหน้าค่าตากับ เพื่อนสนิทมิตรสหายหรือสมาชิกในครอบครัวที่อยู่ห่างไกลกันครบทุกแพลตฟอร์ม ของ Apple อย่างแท้จริงทั้งในฝั่งของตระกูลเครื่อง Mac, iPhone 4, iPod Touch 4G และล่าสุดกับ iPad 2 ด้วย



4. อัพเกรดความมันส์ด้วยซีพียู A5 แบบ Dual Core ตัวใหม่
ใครว่า iPad ตัวแรกสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วแล้วรับรองได้ว่าคุณต้องอึ้งทึ่งเสียวกันไปตามๆกันกับ iPad 2ที่มีการปรับสเปคภายในเครื่องให้มีความเร็วแรงโดนใจผู้ใช้งานโปรแกรมหนักๆหรือเกมส์กราฟฟิกสูงๆได้อย่างลื่นไหลมากขึ้น
โดยในไอแพด 2 นั้น Apple ได้จัดการเปลี่ยนชิปเซ็ตประมวลผลภายในเครื่องจากเดิมที่ใช้งานซีพียู Single Core จากยุคแต่เก่าก่อนหันมาใช้งานชิปเซ็ต A5 แบบ Dual Core ตัวเดียวกับใน iPhone 4 ซึ่งจะช่วยให้ความเร็วในการประมวลผลภายในเครื่องเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าตามไปด้วย
ยิ่ง เมื่อบวกเข้ากับความจุ RAM ที่เพิ่มมากขึ้นเป็น 512MB ด้วยแล้วก็รับประกันได้เลยว่าคุณจะพบกับประสบการณ์การท่องเว็บที่ลื่นไหล ยิ่งขึ้น, ระบบ Multi-tasking ที่มีความสมบูรณ์แบบกว่าเดิมรวมถึงความสามารถในการรองรับเกมส์กราฟฟิกสูง เทียบเท่า PC (แบบเดียวกับ Infinity Blade) ที่กำลังจะมีทยอยตามมาอีกเป็นขบวนต่อไปในอนาคต
5. 3 แอพใหม่จาก Apple ทั้ง Photo Booth, Garageband และ iMovie
Photo Booth for iPad 2
สำหรับแอพพลิเคชันใหม่ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยทาง Apple เองเพื่อใช้งานกับ iPad 2 โดยเฉพาะนั้นต้องบอกว่ายิ่งช่วยตอกย้ำภาพความต้องการของพวกเขาที่
จะทำให้ไอแพด 2 กลายเป็นแทบเลตที่ตอบสนองความต้องการด้านความบันเทิงของผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้นกว่า iPad รุ่นแรก ด้วยแอพพลิเคชันเอฟเฟกต์ภาพ Photo 
Booth ที่มีติดตั้งมาให้ภายในเครื่องเลยซึ่งจะเพิ่มลูกเล่นการถ่ายรูปผ่านกล้องของไอแพด 2 
ไม่ให้รู้สึกน่าเบื่อจนเกินไป

Garageband for iPad 2









iMovie for iPad 2



ขณะที่อีก 2 แอพพลิเคชันที่คุณสามารถซื้อหากันได้ง่ายๆบน App Store ทั้ง Garageband ที่จะเปลี่ยนแทบเลตในมือท่านให้กลายเป็นสตูดิโอเพลงขนาดย่อมๆพร้อมเครื่องดนตรีครบวงและ iMovie โปรแกรม สำหรับตัดต่อวิดีโอที่คุณถ่ายมากันได้แบบมืออาชีพซึ่งมีคุณสมบัติแทบไม่ต่าง จากบนเวอร์ชันเครื่อง Mac ต่างก็จะช่วยเพิ่มอรรถรสในการใช้งานไอแพด 2 ให้คุณได้มากยิ่งขึ้นไปอีกด้วย
6. แอพพลิเคชันรองรับ iPad 2 ใน App Store กว่า 65,000 รายการ
แม้ ว่าแทบเลตแอนดรอยด์นั้นจะนิยมการชูจุดขายของตัวเองอย่างคุณสมบัติด้าน ฮาร์ดแวร์ออกมาเป็นจุดขายเสมอๆ ทว่าจุดที่พวกเขายังไม่อาจทำได้เทียบเท่ากับ
ในฝั่ง iOS ของ Apple ก็ คือปริมาณและคุณภาพของแอพพลิเคชันที่มีให้ใช้งานนั่นเอง ซึ่งในขณะที่แทบเลต Android 3.0 Honeycomb มีแอพพลิเคชันที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้งานบนแทบเลตโดยเฉพาะอยู่เพียงไม่ กี่ 100 รายการเท่านั้น


ส่วนแอพพลิเคชันสำหรับ iPad 2 นั้น มีให้เลือกทั้งซื้อหาหรือดาวน์โหลดกันได้แบบฟรีๆบน App Store เวลานี้กว่า 65,000 รายการแล้วและสามารถตอบสนองการใช้งานแทบเลตในยทุกรูปแบบ ยิ่งเมื่อบวกเข้ากับแอพสำหรับ iPhone ที่ก็สามารถใช้งานบน iPad 2 ได้เช่นกันตัวเลขก็จะยิ่งทะยานไปถึง 300,000+ รายการทีเดียว


ขณะเดียวกันระบบการอนุมัติแอพพลิเคชันที่ค่อนข้างเข้มงวดของ Apple ก็ ช่วยรับรองได้ว่าคุณจะไม่เจอแต่แอพกากๆที่ไม่มีประโขชน์ในการใช้งานหรือแอ พที่แฝงตัวมาเป็นมัลแวร์สิงอยู่ในแทบเลตของคุณเหมือนอย่างใน Marketplace ของแอนดรอยด์อย่างแน่นอน

7. ทางเลือกใหม่แจ่มๆกับ iPad 2 รุ่นสีขาว
ถ้าเราจะบอกว่าหากไม่มี iPad 2 สี ขาวออกมา เราก็อาจไม่ได้เห็น iPhone 4 สีขาวตามมาด้วยก็อาจจะไม่ผิดนัก เพราะหลังจากที่ iPhone 4 สีขาวต้องประสบปัญหาโน่นนี่ตลอดเวลาจนเกือบไม่ได้ผลิตออกมา ทว่า Steve Jobs ก็สามารถผ่าทางตันออกมาได้และเลือกที่จะนำเทคนิคในการผลิตดังกล่าวมาใช้งาน กับ iPad 2
ก่อนเป็นที่แรก

ซึ่ง ผลลัพธ์นั้นก็ไปได้สวยตามที่คาดการณ์กันเอาไว้แถมยังช่วยเพิ่มทางเลือกใหม่ๆ ให้กับคนที่อยากใช้งานแทบเลตสีขาวโดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณสุภาพสตรีทั้งหลายที่ น่าจะหลงใหลได้ปลื้มกับไอแพด 2 สี ขาวตัวเล็กพกพาง่ายอย่างนี้กันได้แบบไม่ยากเย็นนัก (ปล. นอกจากนี้ยังมีผลวิจัยเคยออกมาชี้ว่าผู้ชายที่ใช้งาน iDevice สีขาวนั้นจะยิ่งช่วยเสริมความเซ็กซี่ของท่านในสายตาหญิงให้เพิ่มขึ้นไปอีก ด้วยนะเออ)
8. อุปกรณ์เสริม iPad 2 มีลูกเล่นน่าสนใจให้ต้องตะลึง
Smart Cover for iPad 2
ความพิเศษอย่างหนึ่งของ Apple ก็ คือว่าพวกเขาสามารถเปลี่ยนอุปกรณ์ธรรมดาๆให้กลายเป็นแก็ดเจ็ตเทพได้ด้วย เวทมนตร์อะไรซักอย่างที่ยังหาคำตอบไม่ได้ ไม่เว้นแม้กระทั่งกับอุปกรณ์เสริม ของไอแพด 2 ที่ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้ตัวเครื่องแทบเลตพระเอกของเราแม้แต่น้อย โดยจุดขายหลักในคราวนี้มีด้วยกัน 2 ตัวนั่นก็คือ Smart Cover หรือ เคสฝาหน้าที่ใช้งานคลิปแม่เหล็กในตัวในการยึดติดกับตัวเครื่องซึ่งสามารถพับ กลับมาเป็นแสตนด์สำหรับพิมพ์งานหรือตั้งชมภาพยนตร์ได้และยังทำหน้าที่ เปิด/ปิดเครื่องโดยอัตโนมัติเมื่อคุณแง้มฝาขึ้นมาอีกด้วย



HDMI-Out cord for iPad 2

ขณะเดียวกัน HDMI-Out Cord ก็เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งาน iPad 2 สามารถ เชื่อมต่อการแสดงผลบนหน้าจอแทบเลตของตัวเองออกไปรับชมกันบนจอใหญ่ๆของ HDTV ได้แบบง่ายดาย ซึ่งน่าจะถูกอกถูกใจคนที่ชอบดูหนังหรืออยากจะเล่นเกมส์บนไอแพด 2ให้มันเต็มอิ่มบนจอใหญ่ๆเหมือนเครื่องคอนโซล (Infinity Blade, Real Racing 2 HD หรือแม้กระทั่ง Angry Birds) เป็นอย่างยิ่ง
9. สเปคอย่างเทพแต่ iPad 2 ยังใจดีขายราคาเท่าเดิม
นับ เป็นปัจจัยสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อแทบเลตซักเครื่องของ ผู้บริโภคในยุคนี้ไม่น้อยหน้าสเปคหรือดีไซน์เลยแม้แต่น้อย ยิ่งในช่วงนี้ที่ไม่ว่าอะไรก็จะคอยแต่จ้องจะขึ้นราคากันอยู่ท่าเดียวแบบนี้ ทว่า iPad 2 ของเรากลับทำในทางตรงข้ามกับคู่แข่งบนแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ทั้งหลายด้วยการตรึงราคา จำหน่ายของไอแพด 2 ให้อยู่ในระดับเดียวกับเมื่อครั้งที่ iPad รุ่นแรกออกเปิดตัวอย่างเป็นทางการเสียเลย

iPad 2 W-Fi

16GB ราคา 15,900 บาท
32GB ราคา 18,900 บาท
64GB ราคา 21,900 บาท
iPad 2 Wi-Fi + 3G
16GB ราคา 19,900 บาท
32GB ราคา 22,900 บาท
64GB ราคา 25,900 บาท

ใน ขณะที่แทบเลตแอนดรอยด์สเปคเทพทั้งหลาย (แบบที่เขาชอบเรียกตัวเองกัน) มีราคาเริ่มต้นก็ปาเข้าไปที่ 20,000+ แล้วสำหรับรุ่นที่ถูกที่สุด นอกจากนี้หากมองในแง่ของพ่อค้าหัวใสแล้วราคาของ iPad 2 นั้น รับประกันได้ว่าหากนำไปจำหน่ายเป็นของมือสองแล้วก็จะไม่ลดลงไปแบบฮวบฮาบๆ ชนิดซื้อมาเดือนสองเดือนก็ลดไปเกือบครึ่งแบบโละล้างสต็อคเหมือนอย่างคู่แข่ง แน่ๆอีกด้วย

10. iPad 2 ยังคงความเป็นสุดยอดเหนือแทบเลตค่ายอื่น

แม้ว่าจะมีความพยายามในหลายครั้งหลายคราจากทางฝั่งแทบเลตแอนดรอยด์ในการโค่นล้มความเป็นที่สุดของ iPad 2 ใน หลายๆด้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณ สมบัติด้านสเปคภายในเครื่อง, หน้าตาอินเตอร์เฟซสุดอลังการ, รองรับการใช้งานวิดีโอแบบ Flash หรือแม้กระทั่งกับอีแค่ความบางของเครื่องต่างกันเพียง 0.1 มิลลิเมตรก็ยังเคยพยายามอวดอ้างกันมาแล้ว

ซึ่งไม่ว่าหน้าไหนก็ยังไม่อาจเอาชนะ iPad 2 ของเราไปได้เลยแม้แต่น้อยเพราะนี่คือแทบเลตของบริษัท Appleภาย ใต้หัวเรือใหญ่อย่าง Steve Jobs ที่ถือคติในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ซักตัวว่ายังไงเสียประสบการณ์การใช้งานของผู้ บริโภคนั้นย่อมมาก่อนคุณสมบัติด้านฮาร์ดแวร์ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าฟีเจอร์และฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆของไอแพด 2 นั้น ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองผู้ใช้งานเป็นสำคัญแม้แต่ในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ไม่เชื่อลองไปถามผู้บริหารของบริษัทคู่แข่งเหล่านี้ได้เลยว่าพวกเขาใช้ แทบเลตอะไรกันอยู่

สุดท้ายนี้ยังไงเสียต่อให้มีเหตุผลซักร้อยพันข้อก็ไม่เท่ากับการได้ไปลองพิสูจน์ของจริงกันว่าไอแพด 2 จะดีจริงอย่างที่เราชักแม่น้ำทั้งห้าสาธยายเอาไว้หรือไม่ ว่าแต่คุณละมี iPad 2 ใช้งานกันแล้วหรือยัง?

ที่มา : http://variety.teenee.com/foodforbrain/36847.html